กั้งตั๊กแตน อันที่จริงมันไม่ใช่กุ้ง แม้มันใกล้เคียงกับกุ้ง แต่ก็มาพร้อมกับก้ามอันน่าเกรงขาม กั้งตั๊กแตนสามารถออกหมัดขนาดใหญ่ได้รวดเร็วจนหน้าประหลาดใจ ซึ่งสามารถส่งแรงไปได้เร็วถึง 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันแรงพอที่จะทุบกระจกตู้ปลาหรือทุบเปลือกปูได้
ด้วยพลังของกั้งตั๊กแตน มันสามารถทำให้นิ้วของมนุษย์เจ็บหนักได้ภายในเสี่ยววินาที หรือเลวร้ายคือตัดนิ้วของมนุษย์ได้เลย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้พูดเล่นๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ Katie Watson นักชีววิทยาทางทะเลกล่าวว่า ควรรักษาระยะห่างของคุณไว้ให้ดีที่สุด หากคุณพบมัน! “มันได้ฉายาว่าว่าเครื่องแยกนิ้วหัวแม่มือ มันอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ หากไม่ระมัดระวัง” พวกมันสามารถทำให้เลนส์กล้องแตกได้ ด้วยดังนั้นอย่าเข้าใกล้เกินไปและตามกฎพื้นฐานของการดำน้ำ “จงมองอย่างเดียว มือห้ามยุ่ง”
พลังของกล้ามเนื้อ เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังพลังของกั้งตั๊กแตน มันมีระบบชีวภาพที่ทำงานควบคู่กันเพื่อส่งมอบการโจมตีที่เจาะทะลุสิ่งต่างๆ ได้ “เจ้านี่มีการเคลื่อนไหวแขนขาที่เร็วที่สุดในสัตว์โลกทั้งหมด” ในขณะที่พลังของมันนั้นน่าประทับใจ แต่กั้งตั๊กแตนมีมากกว่าความดุร้าย นี่คือข้อเท็จจริงที่น่าเหลือเชื่อ 7 ประการเกี่ยวกับกั้งตั๊กแตนที่ยิ่งใหญ่และน่าอัศจรรย์
1. ตาของกั้งตั๊กแตนนั้นเป็นสิ่งพิเศษสำหรับวิทยาศาสตร์
พวกมันคือสัตว์ที่มีระบบการมองเห็นดีที่สุดในอาณาจักรสัตว์โลก! ด้วยตัวรับแสงมากถึง 12 ตัว และความสามารถในการมองเห็นแสง UV และยังมองแบบโพลาไรซ์
ดวงตาของกั้งตั๊กแตน ทำให้การมองเห็นของมนุษย์ต้องอับอาย พวกมันเป็นสัตว์เพียงชนิดเดียวที่รู้ว่า สามารถมองเห็นแสงโพลาไรซ์แบบวงกลม และพวกมันสามารถมองเห็นสีและภาพสัตว์แบบคมชัดรอบทิศทาง
2. พวกมันมีรหัสในการสื่อสารของพวกมันเอง
ระบบภาพที่ซับซ้อนเป็นกุญแจสำคัญของกั้งตั๊กแตนในการสื่อสาร เนื่องจากกั้งตั๊กแตนมีอำนาจในการมองเห็นและปรับเปลี่ยนแสงโพลาไรซ์ที่สัตว์อื่นทำไม่ได้ พวกมันจึงใช้การปรับแต่งแสงนี้เพื่อสื่อสาร “เกือบจะเหมือนกับรหัสลับ”
ในงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports ในปี 2016 นักวิจัยค้นพบว่าโพลาไรเซอร์ของกั้งตั๊กแตน เปลี่ยนแสงทั่วโครงสร้างที่ไม่ใช่ผ่านความลึกเหมือนโพลาไรเซอร์ทั่วไป สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ส่วนใหญ่มองไม่เห็นแสงประเภทนี้ ดังนั้นสิ่งที่ใช้มันจึงมีโอกาสน้อยที่จะดึงดูดสัตว์นักล่า หรือผู้ที่แย่งชิงอาหาร นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า มันอาจนำไปสู่เทคโนโลยีการมองเห็นใหม่ๆ ของมนุษย์ในทุกสิ่งตั้งแต่กล้องถ่ายรูปไปจนถึงแว่นกันแดด
3. กั้งสามารถพูดคุยผ่านก้าม
ในตอนเช้าและค่ำกั้งตั๊กแตน ส่งเสียงคำรามและเสียงฮึดฮัดเพื่อปกป้องดินแดนของพวกมัน หรือเพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม นักวิจัยอธิบายว่านี่เป็นเสียงดังก้องความถี่ต่ำที่สร้างขึ้นจากการสั่นของกล้ามเนื้อ กุ้กั้งตั๊กแตน “ได้ยิน” เสียงดังก้องเหล่านี้ผ่านเส้นขนตามร่างกาย จนถึงขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ได้เห็น แต่ตัวผู้เท่านั้นที่ส่งเสียงได่
4. พวกมันสามารถเรืองแสงได้
สีของกั้งตั๊กแตนจะไล่โทนสีตั้งแต่สีน้ำตาล ไปจนถึงสีแดงสดสีฟ้าและสีเขียว บางชนิดเป็นสารเรืองแสงทางชีวภาพ ซึ่งเป็นลักษณะที่ทำให้กั้งดูดซับแสงสีฟ้า เมื่อมันกระทบกับร่างกายของพวกมัน จากนั้นปล่อยให้เป็นสีอื่น “ความยาวคลื่นของสีเรืองแสงเดินทางใต้น้ำได้ดีกว่าการสร้างเม็ดสี”
5. คุณจะไม่ค่อยเห็นกั้งตั๊กแตนในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
ในปี 2001 กั้งตั๊กแตน 2 ตัวแอบเข้าไปในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์ โดยการแอบไปกับโขดหิน ผลที่ได้คือเหมือนหนังระทึกขวัญไซไฟ ปูและหอยทากที่จำเป็นต่อระบบนิเวศของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและการกรองของเสียหายไป แต่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไม่สามารถทำให้คนงานเสี่ยงต่อการพยายามจับกั้งด้วยมือเปล่า
พวกเขามีที่คีบโลหะพร้อมที่จะจับมันเมื่อสัมผัสแล้ววางมันไว้กับตัวอื่นที่พวกเขาจับเมื่อปีก่อน นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อกั้งตั๊กแตน แอบเข้าไปในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ นั่นเป็นเหตุผลที่กั้งตั๊กแตน ไม่ค่อยถูกกักขัง เมื่อเป็นเช่นนั้นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำต้องใช้กระจกอะครีลิกกันแตกและถังที่ปราศจากสัตว์ที่คุกคามมันได้
6. พวกมันชอบอยู่น้ำตื้นๆ แต่เจอตัวมันไม่ง่าย
โอกาสที่จะได้เห็นกั้งตั๊กแตน ค่อนข้างยุ่งยาก กั้งตั๊กแตนเป็นนักล่าที่น่าทึ่ง พวกมันใช้เวลาส่วนใหญ่ซ่อนตัวอยู่ในโพรงหินและทราย กั้งตั๊กแตนชอบน้ำทะเลตื้นๆ ส่วนใหญ่อยู่ในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน พวกมันยังสามารถอาศัยอยู่ในแนวปะการังหรือซอกหิน ถิ่นที่อยู่นี้เป็นแหล่งล่าสัตว์ในอุดมคติ กั้งตั๊กแตนยังคงซ่อนตัวอยู่จนกว่าเหยื่อจะเข้าใกล้จากนั้นก็บูม มันจะโจมตีฆ่าเหยื่อและกินทันทีทั้งหมดในไม่กี่วินาที
7. กั้งตั๊กแตนกำลังได้ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ
มหาสมุทรที่ร้อนขึ้นกำลังคุกคามชีวิตในทะเลเกือบทั้งหมด และกั้งตั๊กแตนก็ไม่รอดเช่นกัน “สิ่งมีชีวิตในทะเลที่เปราะบาง กั้งตั๊กแตน ต้องเผชิญกับดาบสองคม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คาดว่าจะทำให้มหาสมุทรร้อนขึ้นและทำให้เป็นกรด
สิ่งนี้คาดการณ์ว่าจะส่งผลให้พวกมันต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น ข้อจำกัดในการเติบโต ความเครียดทางสรีระวิทยา และการเปลี่ยนแร่ธาตุสำหรับกั้งตั๊กแตน เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของส่วนต่อก้ามจำเป็นต้องมีองค์ประกอบของแร่ธาตุที่แม่นยำ และคุณสมบัติเชิงกลในชั้นต่างๆ ของเปลือกภายนอกของพวกมันอีก “วัตสันกล่าวว่า” งานวิจัยบางชิ้นระบุว่ากั้งตั๊กแตน สามารถทนต่ออุณหภูมิและความเป็นกรดที่เพิ่มขึ้นในระยะยาวได้ แต่การย่อยสลายของแนวปะการัง และการจับปลามากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อพวกมันเช่นเดียวกับผู้อาศัยในแนวปะการังอื่นๆ
และนี้ก็คือเรื่อง 7 เรื่องน่าแปลกใจเกี่ยวกับกั้งตั๊กแตน จริงๆ มันเป็นสัตว์ขนาดเล็ก ที่มีความสามารถที่น่าเหลือเชื่อมาก ในโลกนี้ถ้าตัวเท่ากัน ผมว่าสัตว์อื่นแทบทุกชนิดเป็นเหยื่อของมัน ยังไงถ้าชอบเรื่องนี้ก็อย่าลืมแชร์ไปให้น้าๆ ท่านอื่นได้อ่านกันนะครับ