1. ICQ (I Seek You)
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ฮอตสุดๆ ในช่วงปี พ.ศ. 2539 – 2543 แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป มันก็ค่อยๆ หายไปจากความนิยม เพราะมนุษย์มีทางเลือกในการสื่อสารมากขึ้นนั่นเอง
ICQ เป็นคำพ้องเสียงกับ I seek you เป็นโปรแกรมสำหรับการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต พัฒนาโดยบริษัท Mirabilis แห่งประเทศอิสราเอล ในปี พ.ศ. 2539 จากนั้นถูกบริษัท AOL (American Online) ของสหรัฐซื้อกิจการไป และถูกพัฒนาออกมาอีกหลายรุ่น
2. Pirch98
ห้องแชทสาธารณะที่ฮิตสุดๆ ในยุค 90 หลังจากนั้นก็ค่อยๆ จางหายไปตามกาลเวลา แต่ในปัจจุปันก็ยังมีคนเล่นอยู่นะ แต่มีน้อยมากๆ
3. MSN
เรียกได้ว่าวัยรุ่นในยุคนั้นต้องมี MSN กันทุกคน ใครไม่มีถือว่าเชยสุดๆ เพราะเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่สามารถพูดคุย ส่งอิโมติคอนต่างๆ ผ่านกันไปมาอย่างสนุกสนาน
4. IE (Windows Internet Explorer)
เรียกได้ว่า Windows Internet Explorer เคยเป็นโปรแกรมท่องเว็บไซต์ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด แต่ในปัจจุบันแม้ว่ามันจะได้รับการพัฒนาไปไกล และอัพเกรดอยู่ตลอดเวลา และเป็นโปรแกรมเริ่มต้นที่ติด Windows มาตลอด
จนขึ้น Windows 11 ซึ่งก็ตั้งแต่ปี 2021 .. IE ไม่มีแล้ว มันถูกเปลี่ยนเป็น Microsoft Edge ที่เร็วกว่าเดิม ความจริงมันเร็วกว่า google chrome ด้วยซ้ำ แต่ก็ถูกใช้เป็นโปรแกรมที่เอาไว้โหลด Chrome มาใช้เท่านั้น
5. ตลับเทปคาสเซ็ท
ใครๆ ต่างก็รู้จักตลับเทปกันดีใช่ไหมล่ะ เพราะมันเป็นรูปแบบการบันทึกเสียงลงสื่อรูปแบบหนึ่งโดยใช้แถบแม่เหล็ก แถมยังมีขนาดเล็ก พกพาได้สะดวก แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป การบันทึกเสียงแบบดิจิตอลเริ่มเฟื่องฟู ทำให้ตลับเทปกลายเป็นเทปตกกระป๋องไปซะงั้น
6. เครื่องเล่นเทปแบบพกพา
ถ้าพูดคำว่า “ซาว-อะ-เบ๊า” แน่นอนว่าคนรุ่นเก๋าต้องร้องอ๋อ แถมใครที่มีเครื่องเล่นนี้ จะดูเท่สุดๆ ไปเลยล่ะ เพราะมันมาคู่กับหูฟังคู่เก่ง ที่ทำให้วัยโจ๋ทั้งหลายได้เพลิดเพลินไปทั้งวัน แต่พอเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลรุ่นใหม่ๆ ได้พัฒนาขึ้น มันจึงได้หายไปตามกาลเวลา
7. ม้วน+เครื่องเล่นวิดีโอ
เพื่อนๆ ยังจำเครื่องเล่นวีดีโอเหล่านี้ได้ไหม ในอดีตทุกบ้านจะต้องมี เลิกเรียนจะต้องไปเช่าดูทุกวัน แต่เมื่อสื่อดิจิตอลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้เครื่องเล่นวีดีโอเหล่านี้ค่อยๆ เลือนหายไปจากความทรงจำ
8. เครื่องกรอวิดีโอ
เจ้าสิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นมา พร้อมพัฒนาจากหน้าตาสี่เหลี่ยมทื่อๆ เป็นรูปลักษณ์สุดเฟี้ยว แต่แล้วก็ต้องจากไป เมื่อวิดีโอไม่ใช่ความบันเทิงภายในบ้านที่ผู้คนต้องการอีกต่อไป
9. MD (Mini Disc)
เจ้า Mini Disc นี้ ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนเครื่องเล่นเทป แถมยังได้รับนิยมอย่างมากในผู้ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับระบบเสียง แต่ในปี พ.ศ. 2554 ทางผู้ผลิตได้ประกาศยุติการขายเครื่องเล่น MD และเลิกผลิตอย่างถาวรในเวลาต่อมา
10. Laser disc
เรียกได้ว่าเจ้าตัวนี้มีความวุ่นวายเวลาใช้งานเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีราคาสูง ทำให้ LD ไม่เป็นที่แพร่หลายในตลาดทั่วไป
11. Floppy Disk
ใครๆ ก็รู้จัก Floppy Disk ดี เพราะมันง่ายต่อการบันทึกงาน และด้วยความง่ายในการบันทึกนี่แหละ ทำให้ไวรัสเข้ามาแทรกแซงได้ง่ายมากๆ แถมยังสร้างปัญหาให้ผู้ใช้ปวดหัวมากมาย เหตุผลนี้นี่แหละคือจุดจบของมัน
12. HD DVD
ในสมัยก่อนเครื่องเล่นนี้เป็นที่นิยมกันอย่างมาก แต่ในเวลาต่อมาทางผู้ผลิต ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะหยุดพัฒนา ผลิต และจำหน่ายเครื่องเล่นและบันทึก HD DVD นี้เป็นการถาวร
13. ทีวีขาวดำ
เชื่อว่าสมัยก่อนโน่นเกือยทุกบ้านจะต้องมีทีวีจอขาวดำแน่นอน ตัวผมเองก็มีเครื่องนึง เป็นกล่องเล็กๆ น่าจะ 14 นิ้วมั้ง เปลี่ยนช่องแบบบิดๆ ความจริงผมเอามาต่อเล่นกับเครื่องเกม FR 102 ซึ่งก็พอเล่นได้อะนะ
แต่ยุคของทีวีขาวดำก็หายไปค่อนข้างเร็ว เพราะทีวีเริ่มเข้ามาและราคาก็ถูกลงเรื่อยๆ จนในที่สุดทีวีจอขาวดำ ค่อยๆ ถูกลบเลือนหายไปตลอดกาล
14. เพจเจอร์
สมัยก่อนใครมีเพจเจอร์คนนั้นจะดูเท่สุดๆ ไปเลย เพราะมันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในวัยรุ่นไทย แต่แล้วเทคโนโลยีต่างๆ ที่ได้รับการพัฒนา ได้ผุดขึ้นมามากมาย ทำให้เพจเจอร์ค่อยๆ เลือนหายไป
15. iPod Classic
เครื่องเล่นเพลงที่เป็นตัวแทนความเท่ของวัยรุ่นทั้งโลก แถมยังเคยฆ่าสินค้าอื่นๆ ตายมามากมาย แต่แล้วก็ถึงคราวตัวเอง เมื่อการฟังเพลงแบบ Streaming เข้ามาแทนที่ ทำให้บริษัท Apple ได้อันเชิญ iPod Classic ออกจากเว็บ ทั้งในหน้าของ iPod และ Apple Online Store ถือเป็นการปิดตำนาน 13 ปีของ iPod อย่างเป็นทางการ
16. เมาส์แบบลูกกลิ้ง
เชื่อว่าทุกคนจะต้องเคยสัมผัส เมาส์ลูกกลิ้ง อย่างแน่นอน แต่ด้วยความที่มันเคลื่อนไหวไม่ทันใจ ทำให้มีการพัฒนาเป็นเมาส์ที่ใช้ LED หรือเลเซอร์ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดแสง แถมยังใช้งานง่ายกว่าเมาส์ลูกกลิ้งหลายเท่า ไม่แปลกใจเลยที่มันจะถูกลืม
17. โทรศัพท์ PCT
สำหรับโทรศัพท์ PCT ถือเป็นตำนานบทหนึ่งที่อาจจะรู้จักเฉพาะในกรุงเทพ เพราะ PCT จะใช้ได้ที่กรุงเทพเท่านั้น มันเป็นเคลื่อนที่ แต่เป็นเบอร์โทรบ้าน ตอนมันมาใหม่ๆ บอกเลยว่าอย่างเท่
แต่บอกตรงๆ ในตอนนั้นผมเองก็ไม่มีปัญญาจะซื้อใช้ จนหมดยุคก็ไม่มีใช้ 555+ แต่เทคโนโลยีที่อยู่ได้ไม่นาน เพราะมันใช้ได้แค่กรุงเทพ สัญญาณก็ไม่ดี และถูกแทนที่ด้วยโทรศัพท์มือถือ