สำหรับเทศการล่าวาฬ ที่หมู่เกาะแฟโร นั้นดำเนินต่อเนื่องมายาวนานมากกว่า 100 ปี และปกติจะเริ่มในช่วงปลายเดือน กรกฎาคมของทุกๆ ปี โดยในแต่ละปีจะมีวาฬว่ายเข้ามาในเขตชายฝั่งประมาณ 800 ตัว แต่ในปี 2020 เริ่มช้ากว่านิดหน่อยเนื่องจากติดเรื่อง โควิด -19 แต่ก็ยังจัดอยู่ดี
Sea Shepherd Global กล่าวว่ามันเป็นการ “Return of the Bloody Fjords” (การกลับมาของอ่าวที่เต็มไปด้วยเลือด) เนื่องจากวาฬนำร่องครีบยาว 252 ตัวและโลมาขาวด้านมหาสมุทรแอตแลนติก 35 ตัวถูกสังหารในวันเดียวส่งคลื่นสีแดงเข้มเข้าสู่ชายฝั่ง
นักเคลื่อนไหวอธิบายบน Facebook ว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม “ถูกฆ่าในหมู่เกาะแฟโรของเดนมาร์ก”
“นี่เป็นการฆ่า ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของปี 2020 หลังจากหยุดการล่าสัตว์เพื่อหลีกเลี่ยงการระบาดเนื่องจากโควิด -19”
“เรือ Sea Shepherd อาจถูกห้ามไม่ให้เข้าสู่น่านน้ำของแฟโร แต่ในแต่ละปีอาสาสมัครของเราจะไปที่นั่นเพื่อบันทึกการฆ่าโลมาและวาฬนำร่องอย่างต่อเนื่อง”
ภาพถ่ายที่น่าสยดสยองของสัตว์ที่ถูกขังและถูกประหารชีวิต ทำให้ผู้รักสัตว์ที่โกรธแค้นคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “ทำไมพวกมันยังคงฆ่าสัตว์ที่งดงามเหล่านี้ มันทำให้ฉันป่วยตลอดเวลา”
และมีกล่าวเพิ่มเติมว่า : “ทำไมคนถึงทำเช่นนี้.? มนุษย์นั้นล่ะคือไวรัส”
นักรณรงค์ มีคนเกือบ 140,000 คนลงชื่อในคำร้องออนไลน์ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแห่งหมู่เกาะแฟโร “หยุดเทศกาลฆ่าโลมาและวาฬในเดนมาร์ก”
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เดนมาร์กได้อนุญาตให้ปฏิบัติตามประเพณีที่ป่าเถื่อน และไร้ความหมายซึ่งเกี่ยวข้องกับการฆ่าโลมาและวาฬกว่า 800 ตัวต่อปี
“บันทึกการล่าวาฬนำร่องทั้งหมดถูกเก็บไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ 1584 และการปฏิบัตินี้ถือว่ายั่งยืนเนื่องจากมีวาฬประมาณ 778,000 ตัวในภูมิภาคแอตแลนติกเหนือทางตะวันออก และประมาณ 100,000 ว่ายน้ำใกล้กับหมู่เกาะแฟโรและชาวแฟโรล่าวาฬนำร่องเฉลี่ย 800 ตัวต่อปี พวกมันเกือบทั้งหมดจะถูกล่าเพื่อนำเนื้อไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่เข้าร่วมอย่างเท่าเทียม
เรนโบว์เทราต์ มีในแหล่งน้ำธรรมชาติของไทยแล้วหรือยัง
Advertisements