ดิก-ดิก เจ้าตัวน้อยแห่งแอฟริกา
ในแอฟริกามีดิก-ดิก อยู่ 4 สายพันธุ์ มักพบในพื้นที่กึ่งทะเลทราย Gunther’s Dik-Diks พบในเขตแห้งแล้งในแอฟิริกาตะวันออก Kirk’s Dik-Diks พบในเขตตะวันออกและตะวันตกเฉียงใต้ของแอฟริกา Sliver Dik-Diks พบในเขตที่ราบต่ำแถบโซมาเลียและเอธิโอเปีย และ Salt’s Dik-Diks พบในทางเหนือของเคนย่าและทางตะวันออกของซูดาน นอกจากนี้พวกมันยังมีสายพันธุ์ย่อยอีกหลายสายพันธุ์
สวนสัตว์ Brookfield ในรัฐอิลินอยส์ ทางเหนือของเมืองชิคาโก เป็นบ้านของ ดิก-ดิก 4 ตัว ตัวผู้ 1 และ ตัวเมีย 3, Amy Roberts ผู้ดูแบอวุโสของสวนสัตว์ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าพวกตัวจิ๋วพวกนี้
หน้าตาของพวกมันที่รอบดวงตาจะมีลายสีดำๆ และที่แปลกคือพวกมันจะใช้น้ำตาของมันในการสร้างอาณาเขต ถ้าเห็นพวกมันดูเหมือนร้องไห้ นั่นคือมันกำลังสร้างอาณาเขตของมัน โดยให้ปลายหญ้าหรือกิ่งไม้เล็กๆ ทิ่มตา
สัตว์กินพืชบางชนิดอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเพื่อความปลอดภัย แต่เจ้าดิก-ดิก ถ้าเจอคู่มันจะอยู่ด้วยกันไปตลอด เมื่อมีลูกโตเต็มวัย (อายุประมาณ 7 เดือน) พ่อแม่ของมันจะไล่ลูกออกจากอาณาเขตที่อยู่และเตรียมพร้อมกับการตั้งท้องต่อไป ซึ่งนับว่าแปลกมากสำหรับสัตว์เลี้ยงลูกโดยนมที่ส่วนใหญ่ เพราะปกติลูกๆ มักจะเป็นฝ่ายแยกตัวไปเองเมื่อมันโตขึ้น
อาหารการกินของดิก-ดิก
มันเป็นสัตว์กินพืชจำพวกใบไม้, หน่อไม้, พืชสมุนไพร, ดอกไม้, ผลไม้และเมล็ดพืชด้วย และมันมักจะคอยอยู่ใกล้ๆ สัตว์ใหญ่เพื่อคอยเก็บกินพวกใบไม้หรือดอกไม้ที่ร่วงตกลงมา ส่วนดิก-ดิกในที่เลี้ยงนั้นยังกินอัลฟัลฟ่าอัดเม็ด “พวกมันกินอัลฟัลฟ่าอัดเม็ดเหมือนกับวัวและม้า ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย เราให้มันกินพร้อมกับใบไม้สดๆ” Amy กล่าว
ชื่อของมันได้มาจากเสียงลมผ่านออกมาทางจมูกเกิดเสียงคล้ายเสียง “ดิก-ดิก” ซึ่งเสียงนี้ไม่เพียงจะเตือนพวกมันเท่านั้น แต่ยังช่วยแจ้งเตือนสัตว์พวกอื่นๆ ได้อีกด้วย สำหรับคนบางคนมันออกเป็นเสียงตัว Z มากกว่าตัว D
“โครงสร้างจมูกของมันนั้นใหญ่เกินตัวพวกมันมาก ในจมูกมันเมื่อมีความชื้นมันจะให้อากาศที่แห้งเข้ามาในจมูกและยังเป็นตัวช่วยในการลดความร้อนในร่างกายและเลือดก่อนไปเลี้ยงสมองอีกด้วย”
พวกมันยังไม่ต้องการดื่มน้ำมาก และมีการทำงานของไตที่ค่อนข้างพิเศษ และยังมีการปัสสาวะที่ค่อนข้างน้อยมากและแห้งอีกด้วย
มันเป็นสัตว์เลี้ยงได้ไหม?
ถึงแม้มันจะมีขนาดที่เล็กพอๆ กับแมวบ้าน แต่ดิก-ดิกก็ไม่เหมาะที่จะเป็นสัตว์เลี้ยง “ถึงมันจะตัวเล็กแต่มันก็มีแรงมหาศาล มันสามาถย่อตัวและถีบส่งจนทำให้ไม้หักได้ มันสามารถสู้ได้ถ้าจำเป็น และวิ่งหนีเมื่อมันกลัวซึ่งอาจจะทำให้มันบาดเจ็บได้” และมันเป็นสัตว์ที่ต้องอยู่เป็นคู่ การเลี้ยงตัวเดียวจะส่งผลต่อมันอย่างมาก
“มันน่าแปลกใจที่สัตว์จิ๋วตัวนี้ที่มีขนาดเพียง 35 ซ.ม. สามารถก้าวร้าวและพุ่งชนด้วยความแรงมากกว่าที่คิด” ถึงแม้ ดิก-ดิก จะไม่ใช่สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ พวกมันจัดอยู่ในประเภทที่ยังมีจำนวนมาก แต่มันก็ถูกล่าเพื่อเอาหนังไปทำถุงมือเป็นประจำ
