Advertisement
Home เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ นี่ล่ะของจริง ‘คางคกประสาทหลอน’ จะนำเข้าสู่ ‘ความว่างเปล่า’ โดยสมบรูณ์

นี่ล่ะของจริง ‘คางคกประสาทหลอน’ จะนำเข้าสู่ ‘ความว่างเปล่า’ โดยสมบรูณ์

LSD เป็นยาเสพติดประเภทหลอนประสาทที่รุนแรง แต่เมื่อเทียบกับ 5-MeO-DMT แล้ว คงต้องบอกว่า LSD จะต้องชิดซ้ายตกขอบไปเลย โดย 5-MeO-DMT เป็นสารที่เพิ่งค้นพบไม่นานและมันได้ชื่อว่ารุนแรงที่สุด และคางคกตัวนี้ก็มี 5-MeO-DMT อยู่เต็มตัว

ท่ามกลางความสนใจที่เพิ่มขึ้น ในคุณสมบัติการรักษาของยาประสาทหลอน นักวิจัยได้หันความสนใจไปที่สารประกอบที่เปลี่ยนแปลงจิตใจ ที่เรียกว่า 5-Methoxy- N,N -dimethyltryptamine (5-MeO-DMT) สารชนิดนี้พบในการหลั่งสารจากต่อมของคางคกทะเลทรายโซโนรัน (Sonoran Desert toad)

5-MeO-DMT ยังไม่มีการศึกษาในการทดลองทางคลินิก แต่บทความใหม่ในวารสาร Psychopharmacology ได้เน้นถึงผลกระทบที่เป็นเอกลักษณ์ ของประสาทหลอนที่มีศักยภาพสูง ซึ่งเผยให้เห็นว่าผู้ที่กินมันเข้าไป จะมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ “ความว่างเปล่า” ที่นักวิจัยเทียบกับอัตถิภาวนิยม (existentialism)




โดยรวมแล้ว “ผู้ใช้สารชนิดนี้ รายงานว่าการสูบบุหรี่ที่มีส่วนประกอบของ 5-MeO-DMT ทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงกว่า เมื่อเทียบกับยาประสาทหลอนอื่นๆ” มันความรู้สึกประสบการณ์ของความว่างเปล่านั้นท่วมท้นเพียงใด

จากการทบทวนวรรณกรรมทางวิชาการ ที่มีอยู่เกี่ยวกับสารประกอบที่น่าสนใจนี้ พวกเขาอธิบายต่อไปว่า 5-MeO-DMT ถูกใช้โดยชนพื้นเมืองต่างๆ ทั่วทั้งอเมริกาใต้เป็นเวลานับพันปี ในบริบทต่างๆ เช่น ยานัตถุ์ที่มีสารประกอบนี้ ทำมาจากพืชที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เช่น Anadenanthera peregrina (เรียกในท้องถิ่นว่า yopo หรือ cohoba)

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 1980 แผ่นพับลึกลับใต้ดินก็ปรากฏขึ้น พร้อมกับคำแนะนำในการสูบสารคัดหลั่งจากน้ำนมของคางคกทะเลทรายโซโนรันและนับแต่นั้นมา มันได้กลายเป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดในการกิน 5-MeO-DMT ในหมู่ชาวตะวันตก




ตามที่ผู้เขียนศึกษาบอกว่า เรายังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าโมเลกุลมีปฏิสัมพันธ์กับระบบประสาทส่วนกลางอย่างไร แม้ว่าสิ่งที่เรารู้ก็คือ มันจับกับตัวรับเซโรโทนินตัวเดียวกันกับยาประสาทหลอนอื่นๆ เช่น LSD และไซโลไซบิน ..น่าประหลาดใจที่การศึกษาบางชิ้น แนะนำว่าร่างกายของเราอาจผลิต 5-MeO-DMT และตรวจพบสารประกอบนี้ในเลือดมนุษย์ ปัสสาวะ และน้ำไขสันหลัง

เมื่ออธิบายถึงผลกระทบของยา นักวิจัยกล่าวว่ายาเริ่มมีอาการเร็วมากเมื่อได้สูบควัน จนถึงระดับความเข้มข้นสูงสุด มันใช้เวลาเพียงสอง-สามนาที และทำให้เกิดการเดินทางสู่ “ความว่างเปล่า” ที่กินเวลาประมาณ 15 – 20 นาที หากแค่สูดดม เอฟเฟกต์จะรุนแรงน้อยกว่าแต่ก็คงอยู่นานขึ้นเล็กน้อย

“ประสบการณ์เชิงอัตถิภาวนิยม โดยทั่วไปมักถูกอธิบายว่าเหนือธรรมชาติ ปรัชญาแนวนี้โดยทั่วไปจะแสดงให้เห็นถึงความคิดในอิสรภาพ และยอมรับในผลสืบเนื่องจากการกระทำของปัจเจก และยังคิดว่าปัจเจกจะต้องรับผิดชอบกับทางเลือกที่ได้เลือกไว้ด้วย นักคิดแนวอัตถิภาวนิยมนั้นให้ความสำคัญกับอัตวิสัย (subjectivity) และมองว่ามนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่ดำเนินชีวิตอยู่ในโลกที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ และมักเต็มไปด้วยความไม่ชัดเจน”




จุดสุดท้ายนี้น่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากยาหลอนประสาทที่คล้ายกัน เช่น N,N-Dimethyltryptamine (DMT) มีชื่อเสียงในการสร้างภาพที่สดใส ซึ่งเป็นทางตรงกันข้ามกับ 5-MeO-DMT

ผู้เขียนกล่าวว่า “ผู้ใช้ 5-MeO-DMT มักจะบรรยายถึงประสบการณ์ที่ปราศจากเนื้อหาเชื่อมโยง กับการสูญเสียความรู้สึกนึกคิดในตนเองและร่างกาย และการกีดกันทางประสาทสัมผัส (อธิบายว่าเป็นแสงสีขาวทั้งหมดหรือทั้งหมดเป็นสีดำ) โดยมีคำอธิบายทั่วไป เช่น ความว่างเปล่า หรือ ไม่มีอะไรเลย

แม้จะยังไม่มีผลการทดลองทางคลินิกในวงกว้าง แต่ก็มีการศึกษาขนาดเล็กจำนวนจำกัดที่ระบุว่า 5-MeO-DMT อาจมีศักยภาพที่สำคัญในฐานะยาเสริมจิตอายุรเวช ตัวอย่างเช่น งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในปี 2019 เสนอแนะว่าการทานยาเพียงครั้งเดียว สามารถลดอาการซึมเศร้าลง 68% และความวิตกกังวลลดลง 48% โดยผลกระทบเหล่านี้จะคงอยู่เป็นเวลาอย่างน้อยสี่สัปดาห์

จากการค้นพบนี้ นักวิจัยสรุปว่าการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 5-MeO-DMT นั้นได้รับการรับรอง หมายความว่าการก้าวเข้าสู่ความว่างเปล่าอาจก่อให้เกิดประโยชน์ทางจิตวิทยาอย่างมาก

อ่านเรื่องอื่น

Exit mobile version